3 คืน 3 วัน หลับฝันในโลกใบเก่า
ชัยนาท อยุธยา ปทุมธานี
ตอนแรก วันแรก (ชัยนาท)
ต้องบอกถึงจุดประสงค์ของการเดินทางท่องเที่ยวในครั้งนี้ให้รู้กันก่อนว่า “3 คืน 3 วัน หลับฝันในโลกใบเก่า” ชัยนาท อยุธยา ปทุมธานี เป็นการท่องเที่ยวแบบเน้นไปสัมผัสวัดวาอารามและแหล่งโบราณคดีที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวโดยทั่วไป พูดให้ชัดขึ้นมาอีกนิดคือเป็นสถานที่หรือแหล่งที่ไม่นิยม นั่นแปลว่านักท่องเที่ยวไม่ค่อยคุ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกแห่งที่เราไปล้วนมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โบราณคดีทั้งสิ้น โดยตอนแรกเปิดฉากที่ จ.ชัยนาท เที่ยวกันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ เริ่มจากวัดหน้าพระธาตุแล้วไปจบที่สถานีตำรวจภูธรสรรพยา ซึ่งเป็นช่วงที่บ้านเรือนในตลาดสรรพยาปิดประตู ตกอยู่ในความเงียบสงบ หมายความว่าอาทิตย์ได้ลาทิวาวันไปนานแล้ว ส่วนการเดินทางเริ่มจากกรุงเทพฯ ออกจากเมืองหลวงตั้งแต่เช้าตรู่ แวะกินข้าวแกงที่ร้านบัวตองริมถนนสายเอเชีย จากนั้นจึงเข้าเขต จ.ชัยนาท โดยเข้าไปที่วัดหน้าพระธาตุ อ.สรรรคบุรี เป็นจุดแรก แล้วไล่เรียงไปวัดพระบรมธาตุ วัดพระแก้ว แวบไปวัดร้างอย่าง “วัดโตนดหลาย” กับ “วัดสองพี่น้อง” ช่วงสุดท้ายมุ่งสู่อำเภอสรรพยาเพื่อตามหาโรงพักแสนสวย ลองไปดูรายละเอียดกันครับว่าแต่ละที่มีอะไรให้เราชมและศึกษากันบ้าง





ทางทิศใต้มีอาสนะสงฆ์ก่ออิฐถือปูนยกสูงจากระดับพื้นวิหาร ห้องด้านในสุด 2 ห้องมีฐานชุกชีประดิษฐานหลวงพ่อใหญ่ซึ่งเป็นพระประธานปูนปั้นขนาดใหญ่ปางมารวิชัย และมีพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดย่อมอยู่เคียงข้างกันอีกองค์หนึ่ง (การเข้าไปท่องเที่ยวเชิงศึกษาสามารถอ่านข้อมูลจากป้ายนิเทศที่ติดตั้งภายในวัด แต่ทั้งนี้บางป้ายอาจมีตัวเลขที่คลาดเคลื่อน เช่น ป้ายหน้าวิหาร ที่ระบุว่าพระประธานปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่ในปีพ.ศ.2570



“วัดหน้าพระธาตุ” เป็นวัดเก่าแก่ มีสิ่งที่น่าสนใจให้ศึกษามากมายหลายจุด เริ่มจากวิหาร โบสถ์ พิพิธภัณฑ์ ก่อนไปมีคำถามขึ้นในใจว่า “ทำไมต้องชัยนาท” หลังจากมาสัมผัสจึงได้รู้ว่าชัยนาทเป็นเมืองเก่าที่ถูกแวดล้อมด้วยเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น สิงห์บุรี ลพบุรี อุทัยธานี ดังนั้นจึงได้รับอิทธิพลทางการเมืองการปกครอง รวมถึงรูปแบบสถาปัตยกรรมวัดวาอารามจากยุคขอม (ลพบุรี) อู่ทอง สุโขทัย และอยุธยา ที่สำคัญยังพบหลักฐานทางโบราณคดีที่บ่งชี้ว่าดินแดนแห่งนี้มีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยทราวดี ซึ่งมีอายุมากกว่า 1,000 ปี พอรู้แบบนี้จึงให้ความสนใจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่เดินชมวัดหน้าพระธาตุนั้นเพลิดเพลินจนเกินเวลา ในวัดนี้พบว่ามีวิหารเก่าแก่คล้ายคลึงกับยุคอยุธยา หรือมองผ่านๆ อาจคิดว่าเป็นยุคสุโขทัย มีเจดีย์ทรงกลีบมะเฟืองที่งดงามด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตน มีโบสถ์เก่าแก่ที่ทางกรมศิลปกรเข้ามาบูรณะ มีซากพระธาตุเจดีย์ปรากฏให้เห็น นอกจากนั้นยังมี “พระหมอ” หรือ “หลวงพ่อหมอ” ที่ชาวบ้านให้ความเคารพศรัทธาเชื่อมั่นในความศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะการไปขอพรเกี่ยวกับสุขภาพ เป็นวัดที่ยอดเยี่ยม ของเยอะ ก็เลยเพลิดเพลินเจริญใจเกินเวลาอย่างที่บอก




หลังชมวัดหลายชั่วโมงจำเป็นต้องจัดอาหารลงท้อง แล้วก็เรื่องเยอะคือต้องการทั้งอาหารและทิวทัศน์ ผู้นำทางเลือกร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาตามคำขอ ในตัวเมืองชัยนาทมีร้านอาหาริมน้ำหลายร้าน เราเลือกไปกินกุ้งเผาที่ร้านกุ้งเผาทองแท้ ร้านนี้เป็นร้านเรียบง่าย ปลูกสร้างติดแม่น้ำเจ้าพระยา มีระเบียงมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยากว้างไกล ส่วนทีเด็ดทีขาดเรื่องงานตกแต่งต้องร้านกาแฟที่อยู่ติดกัน คือร้าน made my day café ร้านนี้ตกแต่งดีมาก แบ่งพื้นที่ประโยชน์ใช้สอยได้ดี จัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ลงตัว คอกาแฟที่ไปด้วยกันบอกว่ารสชาติดีด้วยสิ
ท้องอิ่ม ร่างกายกลับมามีเรี่ยวแรงอีกครั้ง คราวนี้มุ่งไปที่ “วัดพระบรมธาตุวรวิหาร” วัดที่มีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์เนื่องจากสร้างตั้งแต่ยุคขอมเรืองอำนาจ นั่นแปลว่าวัดแห่งนี้เก่าแก่มาก ภายในวัดมีองค์เจดีย์ที่งดงามด้วยงานพุทธศิลป์ มีอุโบสถที่งดงามด้วยงานสถาปัตยกรรมแบบสมบูรณ์พร้อม นอกจากนั้นยังมี “พระทันใจ” ในซุ้มไม้สลักเสลาอย่างงดงาม นับเป็นพระทันใจแบบล้านนาบนแผ่นดินภาคกลางที่มีความงดงามไม่น้อยไปกว่าพระทันใจในภูมิภาคอื่น



จากวัดพระบรมธาตุมาต่อที่ “วัดพระแก้ว” วัดที่มีตำนานเกี่ยวกับหลวงพ่อลอยซึ่งประดิษฐานอยู่ในวิหาร ส่วนสิ่งสำคัญอันเป็นเอกลักษณ์ของแผ่นดินนี้คือองค์เจดีย์หลังพระวิหาร เจดีย์องค์นี้สง่างามจนถูกนักโบราณคดีหลายท่านยกย่องให้เป็น “ราชินีเจดีย์” เป็นเจดีย์ที่สวยงามและสมบูรณ์ที่สุดองค์หนึ่งของไทย มีพุทธลักษณะพิเศษคือผสมผสานระหว่างเจดีย์ทรงปราสาทห้ายอดกับเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมเข้าด้วยกัน สมแล้วที่ถูกยกย่องให้เห็นราชินีแห่งเจดีย์
ปัจจุบันวัดพระแก้วมีการสร้างศาสนสถานเพิ่มเติมรวมถึงรูปเคารพพระพุทธเจ้า ท้าวเวสสุวรรณและพญานาค นับเป็นวัดที่ผสมผสานงานพุทธศิลป์เก่าและใหม่ไว้ในพื้นที่เดียวกันได้อย่างน่าสนใจ





ออกจากวัดมาที่ “พิพิธภัณฑ์ชัยนาทมุนี” เหตุที่ต้องมากเพราะเคยมีนักวิชาการหลายคนออกมาพูดว่า “คนไทยไม่ค่อยเที่ยวพิพิธภัณฑ์” ซึ่งเห็นว่ามีส่วนจริง โดยเฉพาะในอดีต แต่ปัจจุบันเริ่มมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากขึ้น สำหรับผมคิดว่าถ้าจะเที่ยวเชิงศึกษาหาความรู้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัดหรือโบราณคดีควรมุ่งมาที่พิพิธภัณฑ์เป็นอันดับแรก ที่คิดแบบนี้เพราะพิพิธภัณฑ์ในทุกที่ของไทยหลอมรวมเอาเรื่องราวทั้งหมดของเมืองมาไว้ด้วยกัน พิพิธภัณฑ์ชัยนาทก็เป็นเช่นเดียวกันครับ



ก่อนออกจากเมืองสรรคบุรีแวบมาดูวัดร้างอย่างวัดโตนดหลายกับวัดสองพี่น้อง วัดที่อยู่ติดกัน วัดที่มีเจดีย์สวยงามท่ามกลางความเขียวชรอุ่มชุ่มชื้นของพันธุ์ไม้น้อยใหญ่ กราบไหว้กันพองาม สร้างคำถามกันจนเข้าใจจึงจากลามาที่ อ.สรรพยา ซึ่งเป็นเวลาเย็นมากแล้ว


ความจริงพวกเราวางแผนว่าจะมาถึงอำเภอสรรพยาให้เร็วกว่านี้ คืออยากมาเดินทอดน่องท่องชุมชนคนตลาด ซึ่งเป็นตลาดเก่า แต่ก็ติดลมกับวัดและวัดจนเวลาล่วงเลยมาถึงเย็นย่ำ โชคดีที่โรงพักเก่าสรรพยายังเปิดให้เข้าชม สถานีตำรวจภูธรหรือโรงพักเก่าสรรพยาเป็นเรือนไม้ยกพื้นสูง มีการปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัย มีการออกแบบจัดวางแสงให้ตัวเรือนเกิดความโดดเด่นสะดุดตา ภายในเรือนโรงพักจัดแสดงภาพถ่ายตั้งแต่อดีตซึ่งมีความน่าสนใจมากครับ (ใครบางคนแอบชอบเรือนหลังนี้จนคิดว่าจะกอปปี้แบบไปสร้างบ้านพักอาศัย)




นี่คือ 1 วันในเขตจังหวัดชัยนาท เป็นหนึ่งวันในเศษเสี้ยวหนึ่งของชัยนาท ซึ่งความจริงชัยนาทยังมีที่เที่ยวอีกมากมายหลายแห่ง เช่น เขื่อนเจ้าพระยา วัดมะขามเฒ่า สวนนก หากจะให้ครบจบจริงต้องใช้เวลาสองสามวันครับ
หลังจบวันแรกก็ได้แต่หวังว่าบทความจาก khobjaithailand จะช่วยกระตุ้นหัวใจนักเดินทางที่นิยมการท่องเที่ยวเชิงศึกษาให้เข้ามาสัมผัสเมืองชัยนาทมากขึ้น ต้องขอบคุณผู้ให้การสนับสนุน พระสงฆ์ และชาวบ้านที่ส่งเสริมให้การเดินทางท่องเที่ยวก่อเกิดเป็นองค์ความรู้ ส่วนตอนต่อไปจะพาไปพบวัดที่โลกลืมในเมืองมรดกโลกอยุธยา โปรดติดตาม ขอบคุณมากครับ
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในคำบรรยายภาพครับ)
#3คืน3วันหลับฝันในโลกใบเก่า ตอนแรก
หมายเหตุ
– เมืองสรรค์หรือสรรคบุรีในอดีตเคยเป็นหัวเมืองของอาณาจักรสุโขทัย ซึ่งถูกเรียกว่า “เมืองแพรก” หรือ “เมืองแพรกศรีราชา”
ขอบคุณ
– หลวงลุงเล็ก วัดหน้าพระธาตุ- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย





























