อุบลราชธานี 34 ชั่วโมง

ผืนน้ำกว้างไกลเป็นน้ำที่ล้นหลาก ท่วมไปสุดตา ท่วมจนมิดหลังคาบ้าน

อุบลฯ รอบนี้หนักจริง ช้ำจริง (บันทึกภาพจากเครื่องบิน)

หลังจากไปถ่ายภาพน้ำท่วมที่สิงห์บุรีต้องรีบกลับมากรุงเทพฯ เนื่องจากมีหมายด่วนให้บินไปอุบลราชธานี เร่งขนาดนี้ไปรถไฟไม่ทันการณ์ ต้องใช้เครื่องบินเท่านั้น งานนี้ใช้บริการนกเหล็กยี่ห้อไทยแอร์เอเชีย ใช้เวลาชั่วโมงเศษก็มาถึง ก่อนเครื่องลงจอดมองออกไปนอกหน้าต่างพบว่าพื้นที่รอบนอกเมืองอุบลฯ (ทีแรก) เต็มไปด้วยนาสีเขียวชรอุ่มชุ่มชื้น แต่ภาพต่อมากลับกลายเป็นทุ่งน้ำ พื้นที่เต็มไปด้วยน้ำ เรื่องน้ำพอรับรู้มาก่อนล่วงหน้าว่าปีนี้น้ำท่วมเมืองอุบลฯ หนักมาก แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าเมืองอุบลฯ เป็นพื้นที่รับน้ำ ก็อดตกใจไม่ได้ น้ำกินพื้นที่กว้างไกล เสียหายเท่าไหร่ยังไม่รู้ รู้แต่ว่าเมืองอุบลเป็นเมืองที่ลุ่มสุดท้ายของอีสาน รองรับทั้งแม่น้ำชี แม่น้ำมูล และสายน้ำสาขาเล็กๆอีกหลายสิบสายก่อนสลายรวมไปกับแม่น้ำโขง ตอนนี้บางจังหวัดเลิกท่วมแล้วแต่อุบลฯ ยังเต็มปริ่มครับ

เสาเฉลียงหรือเสาหินล้านปี สัญลักษณ์หนึ่งของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม สูงประมาณ 7 เมตร
ทิวทัศน์ท้องนาบ้านท่าล้ง แม่น้ำโขง และขุนเขาฝั่งลาว มองจากจุดชมวิวภายในอุทยานฯ ผาแต้ม
เพิงผา เส้นทางศึกษาและชมภาพเขียนสีโบราณ (ผาแต้ม) มีทางเดินเป็นเส้นวงกลม ระยะทางประมาณ 3.6 กิโลเมตร มีจุดชมภาพเขียนสีโบราณ 4 จุด

มาถึงอุบลฯ ก่อนเที่ยงเล็กน้อยก็เลยแวะกินข้าวกลางวันในตัวเมืองจากนั้นมุ่งหน้ามาที่ อ.โขงเจียม อำเภอที่อุดมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยว ที่รู้จักกันดีคงเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ที่ประกอบไปด้วยผาชนะได น้ำตกแสงจันทร์ น้ำตกสร้อยสวรรค์ เสาหินดึกดำบรรพ์ และที่โด่งดังเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวสายพรรณพฤกษาคือทุ่งดอกไม้บนพลาญหิน เป็นดอกไม้ประจำแดนนดินถิ่นอีสาน ในเขตอุบลราชธานีถือว่ามีดอกไม้แบบนี้มากที่สุด เรียกว่าเป็นทุ่งเลยก็ไม่ผิด บอกตรงๆ ว่ามาอุบลฯ ทั้งทีอยากไปเที่ยวให้หมด โดยเฉพาะทุ่งดอกไม้กับน้ำตกสร้อยสวรรค์ แต่จะทำไงได้มีเวลาแค่นี้ก็ต้องไปเท่าที่ไปได้หรือเท่าที่เป็นไปได้ (วางแผนสิครับพี่น้อง)

ทอแสงโขงเจียมรีสอร์ท สุดยอดที่พักของเมืองอุบล
สนามหญ้าริมแม่น้ำโขง ภายในพื้นที่ทอแสงโขงเจียมรีสอร์ท
ทิวทัศน์แม่น้ำโขงและขุนเขาฝั่งลาวยามเช้า บันทึกภาพจากห้องอาหารทอแสงโขงเจียมรีสอร์ท

จากตัวเมืองเข้าเชคอินที่โรงแรมแสนสวยของโขงเจียมนั่นคือ “ทอแสงโขงเจียมรีสอร์ท” เอากระเป๋าเสื้อผ้าเก็บเข้าห้องแล้วรีบออกมา เป็นช่วงเวลาบ่ายมากแล้ว รู้ทั้งรู้ว่าการมุ่งไปสู่จุดหมายปลายทางที่อุทยานแห่งชาติผาแต้มอาจไม่ได้อะไรมากนัก แต่ด้วยรักก็ต้องไป จะได้อะไรมากน้อยเป็นอีกเรื่องหนึ่ง (ห่างออกไปประมาณ 20 กิโลเมตร)

ช่วงเวลาน้อยนิดที่เหลือของวันผมได้ภาพทิวทัศนกว้างไกลจากผาสูง มองเห็นสายน้ำโขงรินไหลแบ่งเขตแดนไทยลาว ได้ภาพขุนเขาอันเงียบสงบ ได้พบผืนนาริมโขงในหมู่บ้านเล็กๆ ที่ชื่อ “บ้านท่าล้ง” ซึ่งอยู่ด้านล่างของผาสูง และอดไม่ได้ที่จะ (รีบ) เดินลงไปชมเพิงผาซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “ผาแต้ม” แต่เดินไปได้แค่จุดที่หนึ่งก็ต้องรีบกลับขึ้นมา ที่รีบเพราะเราต้องย้อนไปที่ “วัดภูพร้าว” หรือ “วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว” ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร เพื่อไปชมแสงอาทิตย์หายลับไปกับขอบฟ้าบริเวณริมทะเลสาบเขื่อนสิรินธร และบันทึกภาพวัดภูพร้าวในยามค่ำ

ตอนไปถึงดวงตะวันโบกมือลาเส้นขอบฟ้าไปเรียบร้อยแล้วแต่ยังหลงเหลือแสงทาทาบผืนน้ำอาบผืนฟ้าให้เสพสัมผัส นับเป็นช่วงไม่กี่นาทีสุดท้ายก่อนสนธยาเปลี่ยนเป็นราตรี ห้วงเวลานั้นแทบไม่ต้องคิดอะไรนอกจากกดชัตเตอร์รัวๆ มั่วๆ แบบเอาไว้ก่อน ก่อนจะไม่ได้อะไรเลย

จากนั้นบันทึกภาพโบสถ์เรืองแสงภายใต้ดวงดาวและเดือนเสี้ยว นับเป็นความงามที่จับต้องได้ สัมผัสได้ มีความหมายทั้งในแง่พุทธศิลป์และรื่นรมย์ในอารมณ์ สมกับเป็นจุดสำคัญของการเดินทางมาท่องเที่ยวอุบลราชธานี ส่วนค่ำคืนนี้กลับไปนอนหลับใหลริมแม่น้ำโขงภายในสุดยอดรีสอร์ท “ทอแสงโขงเจียมรีสอร์ท”

ทะเลสาบเขื่อนสิรินธรยามสนธยา บันทึกภาพจากวัดภูพร้าว
พระประธานประดิษฐานในอุโบสถวัดภูพร้าว
อุโบสถเรืองแสง วัดภูพร้าว

รุ่งเช้าวันใหม่ หลังอาหารเช้าริมโขงเราเชคเอ้าท์จากทอแสงโขงเจียมมุ่งตรงมาที่เขื่อนสิรินธรแล้วลงเรือของ กฟผ.เพื่อออกไปดูแผงโซล่าเซลลอยน้ำ (Hydro-Floating Solar Hybrid) เป็นแผงโซล่าเซลแบบไฟฟ้าไฮบริดที่ใหญ่ที่สุดของไทย และเป็นต้นแบบในการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเขื่อนอื่นๆ ต่อไป

เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลแผงโซล่าเซล
เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลแผงโซล่าเซล
แผงโซล่าเซลลอยน้ำ (Hydro-Floating Solar Hybrid) เขื่อนสิรินธร
“ยอ” เครื่องจับปลาของชาวบ้านในเขื่อนสิรินธร
น้ำตกกับร้านกาแฟบริเวณสกายวอร์ค
เรือยนต์ของ กฟผ.พาสื่อมวลชนจากส่วนกลางชมแผงโซล่าเซลลอยน้ำ เขื่อนสิรินธร
พื้นทางเดินบนสกายวอร์คบางช่วงเป็นกระจกใส
สกายวอร์คริมเขื่อนสิรินธร
พื้นทางเดินบางช่วงเป็นเหล็กโปร่งแบบตารางหรือตาข่าย มองเห็นพื้นดินด้านล่าง

จากนั้นไปเดินบนสกายวอร์คริมเขื่อน เป็นสกายวอร์คสั้นๆ แต่ออกแบบได้ดี คือดีทั้งทางเดินและภูมิทัศน์ที่อยู่ด้านล่าง ทางเดินแยกออกเป็นหลายส่วน พื้นทางเดินเป็นเหล็กเส้นโปร่งกับกระจกใส แม้ไม่สูงมากแต่มีเสียวโดยเฉพาะคนไม่นิยมความสูงอย่างผม

ที่พักรินเขื่อนสิรินธร
เครื่องจักสานแสนสวยกับผ้าทอนำมาจัดแสดงและจัดจำหน่ายหน้าห้องประชุมภายในเขื่อนสิรินธร

เที่ยงวันกลับมาที่ห้องอาหารของเขื่อนสิรินธร จัดการปลดเปลื้องความหิวแล้วเข้าไปร่วมฟังการประชุมเสวนาระหว่าง ททท. กับผู้ประกอบการในจังหวัดอุบลฯ ในหัวข้อ “การประชุมขับเคลื่อนการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลาย ร่วมกับหน่วยงานเอกชน” เป็นเรื่องราวหลากปัญหาซึ่งทำให้เกิดปัญญา เช่น เรื่องผลกระทบการท่องเที่ยวจากอุทกภัยน้ำท่วม เรื่องถนน เรื่องมนุษย์ และนี่คือเป้าหมายหลักในการเดินทางมาอุบลฯ ในครั้งนี้ครับ

คุณพิพัฒน์ รัชกิจปราการ รัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนจากส่วนกลางและท้องถิ่น หลังเสร็จจากการประชุม
คุณฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ ททท. (ออกมาชมและอุดหนุนสินค้าชุมชนในช่วงพักการประชุม)

สุดท้ายเราลางานประชุม ย้อนเข้ามาในเมือง แวะกราบสักการะพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิและพญานาคฉัพยาปุตตะที่วัดพระธาตุหนองบัว แล้วไปกินอาหารเวียดนาม สุดท้ายจับเครื่องบินกลับมาเมืองหลวงในช่วงต้นรติกาล

พระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบกึ่งพุทธกาลของพุทธศาสนา ในปี พ.ศ.2500 ลักษณะสถาปัตยกรรมจำลองแบบมาจากเจดีย์พุทธคยา ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ บริเวณสี่มุมของกำแพงแก้วประดิษฐานเจดีย์ขนาดเล็กสี่องค์

ที่เห็นจากภาพคือเจดีย์องค์ใหม่สร้างครอบเจดีย์องค์เดิม มีประตูทางเข้าสี่ด้าน ฐานองค์เจดีย์กว้างด้านละ 17 เมตร สูง 56 เมตร ส่วนเจดีย์องค์เดิมฐานกว้างด้านละ 5 เมตร สูง 17 เมตร
ไปอุบลราชธานีทั้งทีถ้าไม่โดนอาหารเวียดนามคงเป็นไปไม่ได้ งานนี้เลือกอาหารเวียดนามร้านอินโดจีนส่งท้าย ส่วนส้มตำเริ่มมื้อแรกที่ร้านจินดา
พระพุทธรูปสี่ทิศประดิษฐานอยู่ภายในองค์พระธาตุเจดีย์ เคียงข้างพระธาตุเจดีย์องค์เดิม วัดพระธาตุหนองบัว

เป็นอันว่าการเดินทางไปเมืองงอุบลฯ จบลงตรงนี้ ตรงที่เดินทางกันแบบสั้นๆ เร็วๆ ไวๆ น่าจะอยู่ในเมืองอุบลไม่เกิน 34 ชั่วโมง แม้มีเวลาไม่มากแต่ได้หลายอย่างกลับมา อย่างน้อยก็มีภาพอุบลฯ ในหลายมุมมองมาฝากกัน คิดว่าไม่นานคงได้กลับไปอีก ใครไม่เคยไปอุบลฯ อยากให้ไป ที่นี่แหล่งท่องเที่ยวมากมายหลายรส เริ่มตั้งแต่วัด วิถีชีวิต ศิลปหัตถกรรม ป่า ภูเขา ทะเลหมอก แม่น้ำ ยกเว้นก็แค่ทะเลน้ำเค็มที่อุบลฯ ไม่มี ที่สำคัญอุบลฯ ยังเป็นเส้นทางสู่แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ลาวใต้ด้วย ถ้าอยากรู้จักอุบลฯ มากกว่างานประเพณีแห่เทียนต้องไปสัมผัสด้วยตัวเอง หาเวลาเพิ่มมากกว่าผมสักหน่อย สามวันสองคืนเป็นอย่างน้อยหรือมากกว่านั้นก็ได้ครับ

(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในคำบรรยายภาพ)

ระเบียงจุดชมวิวบริเวณที่ด้านหลังอาคารที่ทำการอุทยานฯ ผาแต้ม ชมอาทิตย์ตกได้จากมุมนี้
ที่พักริมเขื่อนสิรินธร มีให้เลือกหลายรูปแบบ หลายราคา ส่วนเรือหรือแพก็เช่นกัน ผู้ที่สนใจลงเรือหรือแพติดต่อได้บริเวณพัทยาน้อย

#khobjaithailand

#อุบลราชธานี

ขอบคุณที่ติดตามมาโดยตลอด ขอให้เพื่อนๆ เดินทางด้วยความปลอดภัย มีความสุขกับเส้นทางที่เลือก ขอบใจไทยแลนด์สวัสดีครับ

หมายเหตุ

– ที่พักริมเขื่อนสิรินธร มีให้เลือกหลายรูปแบบ หลายราคา ส่วนเรือหรือแพก็เช่นกัน ผู้ที่สนใจลงเรือหรือแพติดต่อได้บริเวณพัทยาน้อย

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น