หนาวแรกที่สุรินทร์
กางปีกบินสู่เขาพนมสวาย
นี่คือทริปแรกของปีในช่วงลมหนาวพราวผ่านเข้ามา นับเป็นแรกฤดูหนาวที่สัมผัสได้ชัดหลังฝนขาดเม็ด วันแรกที่เดินทางมาถึงสุรินทร์ฟ้าไร้แดด ลมแรง ฝนบางๆ โปรยปรายสลับกับลมเย็น ผ่านไปสามวัน ฝนหยุด ลมหนาวแทรกตัวเข้าแทนที่ เป็นช่วงกำลังคลุกอยู่กับเรื่องดนตรี เรื่องภาพกับเสียง เรื่องสร้าง MV พอลมหนาวมาจึงพากันวางมือชั่วคราว พาตัวเองออกจากโถงถ้ำ จากถนนโดนแน อ.เมือง มุ่งสู่ “เขาพนมสวาย” อ.ปราสาท ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 20 กิโลเมตร






















เขาพนมสวายมีอะไร? สำคัญยังไง? ทำไมต้องมา? นั่นอาจเป็นคำถามจากใครหลายคน จึงต้องตอบในเบื้องต้นก่อนว่า…
…เขาพนมสวายเป็นภูเขาไฟเก่าแก่ของสุรินทร์ มีอายุกว่า 9 แสนปี
…เขาพนมสวายสำคัญตรงที่เป็นโลกทางธรณีที่น่าค้นหา มีวัดวาอารามที่แปลกไปจากวัดอื่นๆ
…เขาพนมสวายเป็นจุดที่มองเห็นวิวทิวทัศน์กว้างไกลสุดสายตา อยู่ใกล้เมือง เดินทางง่าย ไม่ซับซ้อน
และนั่นคือคำตอบ นั่นคือเหตุผลที่ต้องมา
แล้วถ้ามาจะไปเที่ยวจุดไหน?
ความจริงเขาพนมสวายมีจุดท่องเที่ยวมากมายหลายจุด ทั้งภายในพื้นที่วัดและรอบๆ บริเวณ เอาเป็นว่าผมแบ่งจุดสำคัญออกตามลักษณะภูมิประเทศ แบ่งออกเป็น 4 จุดใหญ่ๆ คือ บึงน้ำ, สถูปเจดีย์หลวงปู่ดุลย์, พระพุทธรูปสุรินทร์มงคล และวัดพนมศิลาราม ก่อนจะไปดูรายละเอียดต้องบอกถึงลักษณะภูมิประเทศสักนิดหนึ่ง บริเวณนี้มียอดเขาสามลูกเรียงติดกัน คือพนมสรัย (เขาหญิง), พนมเปร๊าะ (เขาชาย) และพนมกรอล (เขาคอก) ดังนั้นการเดินทางท่องเที่ยวส่วนใหญ่อยู่บนเขา แต่ทั้งนี้เส้นทางรถยนต์สะดวกสบาย เขาไม่สูงชัน มีทางเดินเท้าขึ้นเขาสองสามจุด จุดแรกคือทางเดินป่าระยะสั้น จุดต่อมาคือบริเวณพระพุทธรูปสุรินทร์มงคล และบริเวณพนมสรัย วันเวลาที่ผมเลือกไปคือช่วงเย็น ตั้งใจไปถ่ายภาพแสงนุ่มๆ ตั้งใจไปถ่ายภาพแสงสนธยา แต่ด้วยเลือกช่วงเวลานี้จึงต้องตัดจุดท่องเที่ยวบางจุดออกไปนั่นคือทางเดินขึ้นเขาพนมสรัย ที่ต้องตัดเพราะเกรงว่าจะไปถ่ายภาพแสงอาทิตย์ฉาบฉายทุ่งข้าวไม่ทัน
ถ้าไปตามเส้นทางจากถนนหลักจะพบบึงน้ำเป็นอันดับแรก แต่ไม่ใช่จุดแรกที่เราแวะ เราเลยขึ้นเขาไปด้านบน โดยไล่เรียงจากพนมกรอล พนมเปร๊าะ พนมสรัย จากนั้นย้อนกลับลงมาที่บึงน้ำ สุดท้ายไปถ่ายภาพตะวันยามเย็นริมนาข้าวในหมู่บ้านด้านล่าง เป็นอันเสร็จกิจกรรมในการมาเยือนวนอุทยานเขาพนมสวายด้วยความพึงพอใจ ลองไปดูกันครับว่าบนเขาพนมสวายหรือวนอุทยานพนมสวายมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง
พนมกรอล (เขาคอก) มณฑปหลวงปู่ดุลย์ อตุโร
หลวงปู่ดุลย์เป็นอิรยสงฆ์สายวิปัสสนาที่คนสุรินทร์และคนไทยให้ความเคารพบูชา เมื่อมาท่องเที่ยวเขาพนมสวายจึงต้องเข้ามากราบไหว้อัฐิหลวงปู่ภายในมณฑปสีทองบนพนมกรอลเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงไปต่อที่พนมเปร๊าะ ถ้าตั้งใจมากราบอย่ามาช่วงเย็นมากนะครับ ทางวัดเขาปิดสถูป มาเร็วหน่อยก็ดีครับ
พนมเปร๊าะ (เขาชาย) เป็นยอดเขาสูงประมาณ 220 เมตร บนยอดเขาประดิษฐานพระพุทธปฏิมากรรมองค์ใหญ่นั่นคือ “พระพุทธสุรินทร์มงคล” โดยปกติบริเวณรอบๆ องค์พระจะมองเห็นทิวทัศน์แบบ 360 องศา แต่วันที่เราไปถึงต้นไม้หน้าฝนเติบโตบดบังทัศนียภาพในหลายจุด แต่ตรงจุดชมวิวยังมองเห็นทิวทัศน์ได้ดีเช่นเดิม บริเวณนี้จะมองเห็นดงตาลในนาข้าวเขียว มองเห็นหมอกบางๆ ปกคลุมผืนป่า (เป็นจุดชมตะวันยามเย็นดีที่สุดจุดหนึ่ง)
พนมสรัย (เขาหญิง) พนมสรัยเป็นที่ตั้งของตัววัดพนมศิลาราม พนมสรัยมีความสูงประมาณ 210 เมตร มีจุดเดินขึ้นเขาไปตามบันได มีจุดชมวิว มีปฏิมากรรมและสถาปัตยกรรมเชิงศาสนากระจายอยู่ตามจุดต่างๆ
บึงน้ำ เป็นจุดสุดท้ายภายในพื้นที่เขาพนมสวายที่เราบันทึกภาพ บึงน้ำมีสะพานไม่ยื่นออกไปในบึง มีต้นไทรอายุกว่าร้อยปี มีความร่มรื่นของพันธุ์ไม้น้อยใหญ่ มีทางเดินเลียบริมบึงเหมาะกับการไปพักผ่อน ที่สำคัญยังเป็นที่อยู่ของนกน้ำจำนวนมากด้วย
หลังจากบันทึกภาพบึงน้ำจนพอใจ เรารีบออกมาปักหลักริมทุ่งนา เฝ้าดูนกจำนวนมากบินกลับรัง ดูตะวันดวงโตเลื่อนลับไปกับขุนเขา มองดูเงาราตรีเคลื่อนตัวปกคลุมนาข้าวกว้างใหญ่ มองดูจนกระทั่งฟ้าเปลี่ยนสี จากครามเข้มเป็นส้มทอง จากส้มทองเป็นดำเทา จากเทาดำเปลี่ยนเป็นฟ้ารติกาล จากตะวันเปลี่ยนเป็นทะเลดาว เป็นอีกวันหนึ่งที่ฟ้างาม เป็นอีกวันหนึ่งที่ถูกลมหนาวโอบกอด (กอดแน่นจนสั่นสะท้าน) เป็นอีกวันหนึ่งได้มาหยุดยืนบนเขาพนมสวาย เป็นอีกวันที่ถูกความทรงจำจารึกไว้
ใครมีโอกาสมาเที่ยวเมืองสุรินทร์ลองหาโอกาสแวะเข้ามาเยือน แม้ได้สัมผัสเพียงส่วนหนึ่งก็พอเพียงต่อรสชาติการเดินทาง เป็นรสชาติที่ง่ายงาม สุขสงบ โดยเฉพาะช่วงนี้นาข้าวเขียวชรอุ่ม พื้นที่ฉ่ำไปด้วยความอุดม นับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะต่อการเดินทางท่องเที่ยวเป็นอย่างยิ่งครับ
ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ติดตามและให้กำลังใจมาโดยตลอด ขอบใจไทยแลนด์ขอบคุณครับ
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในคำบรรยาย)
หมายเหตุ
– บึงน้ำรอบๆ เขาพนมสวายมีหลายบึง แต่ที่ใกล้สุด ง่ายสุดคือบึงน้ำที่นำมาแนะนำ
– พรุ่งนี้ 20 ต.ค. เดินทางไปลำปาง ไม่ได้ไปเที่ยว มีกิจบางอย่างก็เลยต้องไปแอ่ว แต่เชื่อเหอะไปถึงลำปางทั้งทีถ้าไม่มีภาพมาฝากกันก็จะแปร่งเกินไปหน่อย โปรดติดตามครับ