ฝูงวาฬแห่งอ่าวตัวกอ (ก) มหาชัย จ.สมุทรสาคร

9 : 9 : 9

นกกับปลา

ฟ้ากับเล

เรากับเรือ

เราเป็นสิ่งแปลกปลอมของท้องทะเล เป็นคนแปลกหน้าของฝูงนกและหมู่ปลา มีเพียงโชคชะตาที่พาเรามาพบกัน

ก่อนฟ้าสาง ออกเดินทางจากกรุงเทพมหานครมุ่งสู่เขตมหาชัย จ.สมุทรสาคร ตอนมาถึงฟ้าเริ่มสว่าง เส้นทางเริ่มชัด จุดท้ายสุดบนถนนสายแคบคือ “ร้านเจ๋ง ครัวชายทะเล” ริมคลองประมง คลองสายนี้เป็นเส้นทางทำมาหากินของชาวเลพื้นถิ่น เหตุที่เรามาเพราะต้องการล่า “วาฬ” ใช่ครับ! ฟังไม่ผิด เรามาล่าวาฬ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ที่คนไทยเรียกกันติดปากว่า “ปลาวาฬ” ส่วนที่ต้องมาล่าไม่ใช่เพราะเราเป็นพรานปลา หากเป็นเพียงพรานภาพ ไม่มีเบ็ด ไม่มีอวน มีเพียงกล้องกับเลนส์ตัวเก่าเท่านั้น เราเป็นพรานที่คิดถึงเหยื่อที่ชื่อ “วาฬ” วาฬที่ทำให้เราสะทกสะท้านในครั้งอดีต ก่อนจะออกไปไล่ล่าขอเล่าเรื่องราวครั้งวันวานให้ฟังว่าทำไมจึงคิดถึง…

…เดือนตุลาคม 9 ปีที่แล้ว ผมกับเพื่อนๆ เดินทางออกจากท่าเรือริมแม่น้ำเพชรบุรีในเขตบางตะปูน เขตรอยต่อ จ.สมุทรสงคราม – จ.เพชรบุรี เช้านั้นสายหมอกหนา รอบตัวขาวโพลนไปหมด เรือฝ่าเข้าไปเหมือนก้าวสู่โลกใบใหม่ เหมือนอยู่ในอีกมิติหนึ่ง เรือท่องอยู่ในน่านน้ำอ่าวไทยนานเท่าไหร่ไม่ได้นับ ฟ้าเริ่มเปิด หมอกคลายจาง ก่อนสุดทางจึงได้พบวาฬ…

…ครั้งแรกที่เห็นมันผุดโผล่อยู่ไกลราว 200 เมตร เวลาผ่านไปมันขยับใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา ช่วงที่มันเข้ามาใกล้ที่สุดคือว่ายลอดใต้ท้องเรือ กระทบเบาๆ แค่เรือสั่นไหว เหมือนแกล้งให้ตกใจหรือหยอกล้อพอให้จดจำ

นั่นคือภาพที่ผ่านมา 9 ปี วันนี้ 9 กันยายน เราย้อนกลับมาตามล่ามันอีกครั้ง ก่อนออกเดินทางหวังในใจว่าคงได้พบเจอ หวังได้ทักทายสหายตัวโต คืนก่อนวันเดินทางอธิษฐานจิตขอให้ได้พบเพื่อนเก่า อยากล่าให้สนุกสนานสมใจอยาก ให้สมกับที่คิดถึง และถือว่าวันนี้เป็นวันดี เป็นวันที่ 9 เดือน 9 ซึ่งผ่านมา 9 ปี

เราออกจากคลองประมงในช่วงเช้าตรู่ เรือสองชั้นลำใหญ่พาออกไปสู่ปากอ่าว เปลี่ยนไปจากครั้งที่แล้วแค่จุดเริ่มต้นในการเดินทาง ส่วนเพื่อนพรานที่ร่วมล่าในเช้านี้มีทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่า (แก่) เช่น เจน ททท. ปิ้น เมเนเจอร์ นุ่น บางกอกโพสต์

เรือแล่นผ่านประชังเลี้ยงหอยออกไปสู่ความกว้างใหญ่ของอ่าวตัวกอ (ก) (อ่าวตัวกอใช้เรียกอ่าวไทยในพื้นที่หลายจังหวัด เช่น สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี) ที่เรียกแบบนี้เพราะพื้นที่อ่าวมีลักษณะเหมือนตัวอักษร ก.ไก่ นอกจากความกว้างของท้องทะเลยังมีนกนางนวลบินนำหน้า ผืนฟ้าครามเหนือปากอ่าวโอบกอดอยู่ด้านหลัง สายลมผ่านแผ่ว คลื่นเงียบ ทะเลเรียบแบบเงียบงาม ม่านเมฆหนา ฟ้าเปิดบ้างปิดบ้าง แต่ไม่ทีท่าว่าจะมีฝน อากาศเย็นสบายเอื้ออำนวยให้การล่าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

เรือแล่นออกไปไม่ไกล ยังไม่ถึง 10 ไมล์ทะเล มีเสียงจาก “คุณรุ่งโรจน์ จุกมงคล” มัคคุเทศก์กิตติมศักดิ์ผู้เชี่ยวชาญการดูนก เขาบอกว่ามีฝูงปลาโลมาอยู่ด้านหน้า มองตามคำบอกกล่าวก็เห็นอย่างนั้น มีฝูงโลมาเกือบๆ 10 ตัวกำลังกระโจนขึ้นมาเหนือน้ำ ดำหายไป แล้วกระโดดขึ้นมาใหม่ ทำอย่างนี้หลายรอบ ทั้งหมดเป็น “โลมาหัวบาตร” หรือ “โลมาอิรวดี” คุณเอบอกว่าโชคดีที่ได้เจอเพราะมันหายหน้าไปจาก “อ่าวตัวกอ” นานแล้ว การมาตามล่าวาฬแต่ได้ฝูงโลมาเป็นของขวัญ นับเป็นวันที่ฤกษ์งามยามดีครับ (หรือคำอธิษฐานจะเป็นจริง)

เวลาผ่านไปราวชั่วโมงเศษ หลังจากฝูงโลมาหายไปกับสายน้ำ ความงามที่ตามหาเข้ามาแทนที่คือวาฬตัวแรก “คุณเต สมิทธิ์ สุติบุตร” มัคคุเทศก์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องวาฬบอกว่า “วาฬโผล่มาแล้ว” มองตามออกไป มันว่ายอยู่ไกลๆ ไกลมาก เห็นเพียงครีบหลังระเรี่ยผิวน้ำ มันคือเจ้าวาฬตัวอ้วนที่พรานภาพคิดถึงและต้องการเจอ

เรือแล่นใกล้เข้าไป ห่างไม่ไกลเกิน 100 เมตร วาฬแม่ลูกสองตัวแหวกว่ายเคียงคู่ พลิกตัวเป็นครั้งคราว แล้วก็เจออีกตัวและอีกตัว บางตัวโผล่ขึ้นมาอ้าปากกว้าง ปล่อยให้ฝูงปลากะตะผ่านเข้าไปในปากแล้วจึงหุบ มีปลาจำนวนมากหลุดรอดออกมา กลายเป็นอาหารของเจ้านางนวลที่บินวนอยู่เหนือน้ำอยู่เหนือวาฬ นี่คือการพึ่งพาอาศัยตามระบบนิเวศท้องทะเลที่จัดวางไว้อย่างเหมาะสม

มัคคุเทศก์เล่าให้ฟังว่าวาฬทุกตัวที่เวียนว่ายอยู่ในอ่าวแห่งนี้ถูกบันทึกรูปพรรณและถูกตั้งชื่อ มีชื่อทุกตัว เช่น สดใส, สีสุก, สีสัน มีคำถามว่า “แล้วจะรู้หรือดูอย่างไรจึงจะรู้ว่าตัวไหนเป็นตัวไหนในเมื่อวาฬมันเหมือนกันเกือบทุกตัว” เขาตอบว่า “แต่ละตัวมีลักษณะเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ครีบ คาง หางตัว ใต้ท้อง ที่เห็นได้ชัดคือเจ้าสีสุกเป็นวาฬที่ไม่มีครีบหลังเพียงตัวเดียวในน่านน้ำแห่งนี้”

เรือท่องโลกกว้างไปกับฝูงวาฬ เริงร่าไปกับลีลาแหวกว่าย หาอาหาร ดำดิ่งและผุดโผล่ โลกใบนี้มีงาม มีง่าย มีสายใยจากปลากับนก นกกับน้ำ น้ำกับลม บางทีเรื่องเหลือเชื่อในหนังสารคดีอยู่ใกล้ตัวเราแค่นี้ ใครจะมีโอกาสออกไปพบเจอ ใครจะมีโอกาสออกไปสัมผัสนั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง หากทุกสิ่งเอื้ออำนวยอยากให้ไปสัมผัสฝูงวาฬของไทยในอ่าวตัวกอ (ก) เพราะมันเป็นวาฬฝูงที่ดูง่ายเห็นง่ายที่สุดฝูงหนึ่งของโลกสีน้ำเงิน แต่ถ้าไม่มีโอกาสลองศึกษาเรื่องใกล้ๆ ตัว เช่น ผึ้งตัวเดียวอาจทำให้เราแปลกใจในความเป็นแมลง กิ้งก่าตัวหนึ่งอาจทำให้เรารู้สึกฉงนในความเป็นสัตว์โลกดึกดำบรรพ์ จะวาฬหรือปลาช่อนล้วนมีความสำคัญต่อโลกใบนี้ทั้งสิ้น ขอให้สนุกกับการเดินทาง ท่องเที่ยวศึกษา ขอให้สนุกกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว ส่วนวันนี้ พรานภาพได้พบวาฬทั้งหมด 20 ตัว ได้ทักทายให้หายคิดถึง สมใจอยากครับ

ขอบคุณที่ติดตามมาโดยตลอด ตอนหน้าพบกับการท่องเที่ยวในโลกสีเขียว เที่ยวแบบสัมผัสวิถีชุมชน เที่ยวแบบโลว์คาร์บอนด์ ตามใบดูโลกใบนี้ที่ จ.สมุทรสงคราม ตามด้วย จ.นครปฐม สวัสดีครับ

#khobjaithailand

#วาฬ

หมายเหตุ

– วาฬในอ่าวตัวกอ (ก) จะหากินวนไปในพื้นที่หลายจังหวัด ช่วงนี้ยังอยู่ในน่านน้ำมหาชัย พอเลยปีใหม่อาจย้ายถิ่นไปเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดอื่น แล้วก็วนกลับมา เป็นวัฏจักรแบบนี้นานมาและหวังว่าจะตลอดไป

– ผู้ที่สนใจไปชมวาฬติดต่อร้านเจ๋ง ครัวชายทะเล ต.พันท้ายนรสิงห์ จ.สมุทรสาคร โทร. 098 7954563 เรือที่ใช้เดินทางเป็นเรือประมง 2 ชั้นดัดแปลง ชั้นล่างมีห้องแอร์ มีห้องน้ำ มีลานโล่งด้านนอกพร้อมเก้าอี้ตัวยาว ชั้นบนเป็นห้องกัปตันและลานโล่ง มีอาหารเช้า อาหารกลางวัน เครื่องดื่ม

– การไปชมวาฬที่ดีอย่างแรกคืออย่าคาดหวัง 1 ตัว 2 ตัว 3 ตัว 10 ตัว ไม่มีอะไรแน่ การไปดูนก ปลา สัตว์ป่า เหมือนกันหมด ส่วนถ้าจะสนุกคือพกกล้องส่องทางไกลติดตัวไปด้วย ใครชอบถ่ายภาพแนะนำให้มีเลนส์ 70-200 จะดีมากครับ

ขอบคุณ

– เพื่อนร่วมทาง

– การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

You may also like...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น